Catch Me If You Can อาชญากรพันหน้าที่หัวใจเว้าแหว่ง

Catch Me If You Can ถือเป็นหนังจำพวกชีวประวัติที่สนุกในตัวของมัน เพราะการนำเอาชีวิตของ ‘แฟรงก์ อบาเนล’ อาชญากรผู้เชี่ยวชาญด้านการโกงเช็ค ทั้งยังเป็นนักต้มตุ๋นที่เด็กที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ การเป็นใครก็ได้ที่เขาอยากเป็นกลายเป็นจุดเด่นของเรื่อง ทว่าผู้กำกับสามารถไล่เรียงเหตุการณ์จริงทั้งหมด แล้วเรียงร้อยให้มันกลายเป็นหนังอีกเรื่องที่ไม่ได้มีแต่ความสนุกตื่นเต้นดาษดื่นเหมือนกับหนังเรื่องอื่น ๆ บันเทิงได้แบบคุ้มค่าเหมือนเล่นเกมกับ Fun88

จับให้ได้ ไล่ให้ทัน

ในคราวแรก ใบปิดของ Catch Me If You Can อาจเป็นภาพของการเล่าเรื่องเด็กหนุ่มคะนองศึกอย่าง แฟรงก์ ที่ตีตราสารท้าชิงกับเจ้าหน้าที่จาก FBI คาร์ล แฮนแร็ทตี้ ที่รับบทโดย ทอม แฮงส์ การวาดภาพไว้ในหัวคร่าว ๆ ว่าในเรื่องคงมีฉากการไล่ล่าสุดเด็ดเผ็ดมันก็คงไม่ผิดไปเสียทีเดียว แต่เรื่องที่ทำให้คนดูจะต้องประหลาดใจคือการเรียงร้อยความลุ่มลึกและมิติของตัวละครให้สอดคล้องกับบทภาพยนตร์ที่ เจฟฟ์ นาธานสัน ได้รังสรรค์เอาไว้อย่างพินิจพิเคราะห์และถี่ถ้วนทีเดียว

การกำหนดวันฉายที่อเมริกาให้เป็นวันที่ 25 ธันวาคม มีผลบางอย่างกับเรื่องอย่างน่าประทับใจอย่างที่ไม่อาจบอกให้คนที่ยังไม่ได้รับชมมีอารมณ์ร่วมไปกับมันได้ แต่นั่นแสดงให้เห็นว่าทุก ๆ องค์ประกอบของเรื่องนี้ถูกคิดค้นมาอย่างดี ด้วยความตั้งใจและความเคารพตัวจริงของทั้งสองท่านอย่างสุดซึ้ง

Catch Me If You Can กลายเป็นหนังที่แสดงให้เห็นถึงจิตใจอันเปลือยเปล่าของเด็กวัยรุ่นที่ต้องเผชิญปัญหาอันหนักหนาสาหัส เรื่องครอบครัวที่เป็นโลกทั้งใบของแฟรงก์ ความรักของเขา การตัดสินใจของเขาที่จะสร้างครอบครัวเป็นของตัวเอง ความหวังเล็กน้อยริบหรี่ที่ยังไม่เคยดับสูญ ว่าสักวันพ่อกับแม่คงจะกลับมาดีกัน วันคริสมาสต์ที่แสนเงียบเหงาของทุกปี และหน้าที่ด้านความเป็นพ่อของเจ้าหน้าที่แฮนแร็ทตี้ที่สอดแทรกไว้ตลอดเรื่อง ทำให้ผู้ชมอดที่จะเอาใจช่วยทั้งสองฝ่าย ผู้ลี้และผู้ไล่ไปในคราวเดียวกัน และความแยบยลกลลวงใด ๆ ก็ตามที่แฟรงก์ได้มาเพราะความเฉลียว บวกกับความฉลาดของเขาเอง

การเอาใจช่วยคนทำผิด

ถึงแม้จะเป็นหนังชีวประวัติ แต่ก็ไม่มีฉากไหนน่าเบื่อหรือไม่น่าจดจำ ซ้ำทุกฉากยังกลายเป็นฉากที่ตัดไม่ได้เสียด้วยซ้ำ เพราะองค์ประกอบในทุก ๆ วินาทีของหนังขับกล่อมให้เราดาหน้ามีความสุขยืดอกไปกับทุก ๆ บทบาทของแฟรงก์ ในทำนองเดียวกันกับที่ต้องคอยพะวงหลังว่าเมื่อไหร่ที่เจ้าหน้าที่แฮนแร็ทตี้จะไล่ตามมาทัน จนท้ายที่สุดของเรื่องก็ยังคงถือว่าแฟรงก์ประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิตอยู่ดี และเรา ๆ เองในฐานะผู้ชมก็อดไม่ได้ที่จะมีความสุขตามไปด้วยกับความสำเร็จนั้น อันเนื่องมาจากได้เห็นทุกแง่มุมในชีวิตของตัวละครแล้วว่า เขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่เปราะบางและจิตใจดีเพียงใด ทั้งนี้ เส้นเรื่องความเป็นเพื่อนของผู้หนีกับผู้ตาม ก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ประทับใจคนส่วนมากอย่างไม่ต้องสงสัย

Moulin Rouge โรงละครในความทรงจำที่ไม่เคยปิดม่านการแสดง

Moulin Rouge กลายเป็นหนังอีกเรื่องที่เมื่อเปิดกรุหนังเก่าในความทรงจำของใครหลาย ๆ คนดู คงมีมันโผล่ออกมาบางส่วน อาจเป็นแสงสีแห่งความยิ่งใหญ่ของคลับอันใหญ่ยิ่งที่ปารีส ลีลาท่าทางการเต้นแคนแคนที่สะกดใจ สยบทุกสายตา กระทั่งความสวยอันเป็นอมตะนิรันดร์ของนางเอกอย่าง ซาทีน ที่รับบทโดย นิโคล คิดแมน ทุก ๆ สิ่งล้วนแล้วแต่เป็นเศษเสี้ยวของความทรงจำที่เด่นชัดเมื่อเราพูดถึงละครเพลงอมตะสักเรื่อง

การเริ่มต้นแห่งความรักในเสียงเพลง

การเล่าเรื่องเป็นไปอย่างเรียบง่าย ตามทำนองครรลองของสิ่งที่หนังควรจะเป็น ไม่มีฉากที่หวือหวาหักมุมเสียจนต้องอ้าปากค้าง แต่กลับเบาบางลุ่มลึก น่าลุ่มหลงเสียจนประทับอยู่ในใจของใครหลาย ๆ คน ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้มีดีเพียงแค่เส้นเรื่องที่เรียบง่ายแต่กรีดลึก ภาษาท่วงท่าใด ๆ เพลงทุกเพลงที่ถูกขับร้องจากทุก ๆ ตัวละคร ฉากแสงสียิ่งใหญ่อลังการเท่าที่โรงละครชั้นยอดจะทุ่มทุนได้ และสร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผู้ชมในทุกครั้งที่เปิดม่านการแสดงอย่างไม่รู้ลืม

ตัวละครผู้เล่าเรื่องที่เป็นชายหนุ่มหน้าตาดีอย่างคริสเตียน เขาคือกวีผู้ไขว่หา เชื่อมั่น ยึดถือในความรักเหนือสิ่งใด จวบจนวินาทีสุดท้ายที่ได้อยู่กับหญิงคนรัก เขาเก็บร่างกายของเธอ น้ำเสียง นิสัยใจคอ การขยับร่ายรำ ฉายานางฟ้าไร้ปีก ความงดงามและความลุ่มหลงส่วนตัวใด ๆ ที่เขามีต่อซาทีน มากักเก็บไว้ในหนังสือนิยายตามหน้าที่ของกวีผู้ใฝ่รัก และมีความรักอย่างลึกซึ้งมาแล้ว

ทางด้านตัวละครเด่นอีกตัวอย่างซาทีน แม้จะเป็นหนังเก่าแล้ว แต่ตัวละครตัวนี้กลับมีถ้อยคำหลายคำที่ทำให้เราในวันนี้หลังจากหนังได้ออกฉายมาเป็นสิบ ๆ ปีได้คิดคำถาม หล่อนเป็นนกน้อยในกรงทอง ทำให้ถูกตีตรา กำหนดค่าของตัวเองไว้แค่เงินตรา ไม่เคยรู้จักความรัก และเคียดแค้นฮาร์รอด เจ้าของมูแลงรูจ ว่าเขาหลอกลวง ให้เธอด้อยค่าตัวเองถึงเพียงนั้น กระนั้นเองความฝันชั่วชีวิตของหญิงสาวผู้เลอโฉม ก็ยังได้เป็นจริงแม้อย่างน้อยเพียงสักครั้งเดียว การได้พบกับความรัก และก้าวขึ้นสู่บทบาทของการเป็นนางเอก ผู้เลือกมหาราชา

ความจับใจของเส้นเสียง

Moulin Rouge ในสายตาของผู้ชมในปัจจุบันอาจไม่ได้จับใจเท่ากับครั้งแรกที่มันออกฉายเมื่อหลายปีก่อน แต่หากมองในแง่ของศิลปะ ทั้งในด้านศิลปะในเรื่อง ท่วงท่าการร่ายรำ คำประพันธ์ในบทเพลง กระทั่งบทภาพยนตร์นี้เองก็ตาม ย่อมถูกบรรจุอยู่ในหนังประวัติศาสตร์เรื่องหนึ่งที่ควรดู แน่นอนว่าอาจไม่ถูกใจทุกคน เพราะความยืดเยื้อ พ่อแง่แม่งอน มายาคติเรื่องความรักอันเป็นจุดแข็งของเรื่อง อาจทำให้หลาย ๆ คนขัดใจไปบ้าง แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันก็ยังเป็นหนังที่ควรค่าแก่การมอบเวลาสองชั่วโมงเพื่อเก็บเกี่ยวอรรถรสและรสชาติสีแดงของความรักจากเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด

Portrait of a Lady on Fire หนังอาร์ท ที่ติสท์เกินเข้าใจ?

Portrait of a Lady on Fire คือหนังสัญชาติฝรั่งเศสที่ถ้าคุณไม่ได้พูดภาษาฝรั่งเศสคงต้องพึ่งซับไตเติ้ลเอา แต่ในตัวหนังมีสัญญะบางอย่างมากมายที่ขับขานเรื่องราวความรักในแบบที่โลกอาจไม่เข้าใจนัก สู่ภาษาแบบที่คนทั่วโลกเห็นแล้วต้องเข้าใจ ความรักของหญิงสาว สู่หญิงสาว โดยหญิงสาวเอง สะท้อนก้องอยู่ในโสตประสาทและนัยน์ตาของผู้รับชม น้อยกว่าเวลาที่หนังเล่นวนอยู่ในใจหลังจากโรงปิดเสียอีก

ศิลปะแห่งการถ่ายทอดเรื่องราว

ที่เราต้องเรียก Portrait of a Lady on Fire ว่าเป็นหนังอาร์ตเพราะมันอาร์ตอย่างเต็มปากเต็มคำ เอาแค่อาชีพของนางเอกก็เป็นจิตรกรแล้ว แม้เธอจะมีอิสระ ไม่ต้องผูกมัดกับขนมธรรมเนียมใด ๆ แต่หญิงคนที่เธอรักกับโดนห่วงโซ่ของพิธีการแต่งงาน สร้างครอบครัว และมีลูก รัดรึงไว้แน่นหนา นอกจากนี้ ยังประสิทธิ์ประสานศาสตร์และศิลป์ในอีก ๆ หลายแขนง ไม่ว่าจะเป็นคีตศิลป์ ดนตรีศิลป์ หรือวรรณศิลป์เองก็ตามแต่

ตำนานการหันหลังกลับของชายผู้ทวงคืนหญิงคนรักจากนรกเป็นที่ถกเถียงกันในเรื่องอย่างน่าฉงนใจและชวนให้คิดตาม อีกทั้งยังมีสารลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สอดแทรกเอาไว้ตลอดเรื่อง จนต้องตั้งใจดูอยู่หลายครั้ง แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้นถูกทาบทับด้วยกรุ่นไอรักจากจิตรกรหญิงและนางแบบสาว ที่คนทั่วโลกที่ใช้ต่างภาษากันคงดูได้อย่างเข้าใจโดยไร้ซึ่งคำบรรยายใด ๆ ว่าหล่อนทั้งสองรักกันอย่างถึงก้นบึ้งของจิตใจ

กระทั่งฉากจบ Portrait of a Lady on Fire ก็สร้างประวัติศาสตร์ขึ้นมาด้วยตัวเอง จากการล้อกับตำนานที่ถูกนำมาพูดถึงในเรื่อง การหันหลังกลับไปเพื่อจดจำบางสิ่ง ละทิ้งบางอย่าง กับการจ้องมองไปข้างหน้าเพื่อเฝ้ารอคอยวันที่สองเราจะได้เคียงข้าง สิ่งเหล่านี้ผู้กำกับไม่ได้บอกเล่าพวกเราโดยตรงแบบพูดกรอกหู หากแต่การกระทำของตัวละครก็ทำให้เราเชื่อกันอย่างเหลือเกินว่าความโศกเศร้าที่ระอุในหน้าจอ ช่างขัดแย้งกับคำบอกเล่าของตัวละครเอง ผ่านบทเพลงที่ถูกเล่นในเรื่องเพียงแค่สองครั้ง แต่กลับดังก้องยาวนาน กินเวลาหลายปี จนเด็กคนหนึ่งเติบโต ความรักยังไม่มอดจาง ไม่เคยเลือนหาย

ความงดงามของหนัง

เวลาไม่ถึงสองชั่วโมงที่ได้ให้ไปกับการรับชม Portrait of a Lady on Fire คือสองชั่วโมงที่ได้ให้จิตวิญญาณได้ดื่มกินความรักระคนโศกที่สวยงามราวกับภาพวาด ถ้าตัดคำสร้อยทุกสิ่งอย่างที่จะบรรยายเพื่อชมเชยความงามงดของผลงานทั้งหลายภายในเรื่องอย่างหมดจดไป สิ่งที่หลงเหลืออยู่คือกลิ่นไอความเศร้าที่โดดเดี่ยวจากการขาดรัก ที่ซึมลึกอยู่ในใจ ถึงขั้นที่ว่าไม่ว่าเห็นภาพฉากใดก็ตามจากหนังเรื่องนี้ ความรู้สึกเศร้าซึมก็จะตีขึ้นมาที่อกทุกครั้ง เหมือนได้สบตากับตัวละครสักตัว แล้วพบเจอแต่ความอาลัยรักอยู่ในนั้น

The Intern – หนังปลุกใจในสังคมผู้สูงอายุที่กำลังจะมาถึง

ช่วงเวลาต่อจากนี้จะกลายเป็นอีกยุคหนึ่งที่เรา ๆ กำลังจะต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การเพิ่มขึ้นของอายุเป็นอีกวิธีหนึ่งที่เราเติบโตไปควบคู่กับประสบการณ์ที่เพิ่มพูน ประกอบกับความเข้มแข็งทางจิตใจและไหวพริบที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ทว่าอายุนั่นแหละที่เป็นตัวเลขไม่กี่ตัว ที่ภายหลังกลายมาเป็นกรอบตีรอบตัวเราเสียเอง หนังเรื่อง The Intern จึงเป็นอีกหนึ่งกลไกของจิตวิญญาณ แห่งการก้าวข้ามสะพานเรื่องความทุกข์ใจในวัยชรา สู่การเห็นคุณค่าในตัวเอง

แก่แต่เก๋า

ความแก่ไม่เข้าใครออกใคร และในช่วงวัยเกษียณของคนที่ทำงานมาทั้งชีวิตคงไม่ต่างอะไรกับการดึงถ่านที่เพิ่งเปลี่ยนใหม่ออกจากของเล่นเก่า ๆ สักชิ้นเพื่อให้มันหยุดทำงาน ทว่าถ่านนั้นยังรุ่งโรจน์เปี่ยมไปด้วยกำลังของมัน The intern คือหนังน้ำดีอีกเรื่องหนึ่งที่จะพาเราไปดูการทำงานของคนวัยเก๋าที่ไม่ยอมแก่ไปตามอายุ

เบน วิทเทเกอร์ ชายอายุ 70 ปีที่เบื่อชีวิตของความว่างเปล่า เข้าสมัครโครงการรับเด็กฝึกงานอาวุโส (Senior Intern) ในบริษัทแฟชั่นออนไลน์แห่งหนึ่ง ผู้มีไฟในตัวเองเสมอ ทว่าแรกเริ่มเขาเองก็ไม่ได้รับความเชื่อใจในการไหว้วานงานให้เท่าใดนัก กับชายวัยชราที่ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองมาทำงานด้านออนไลน์ให้ทันกับยุคสมัยและธุรกิจที่กำลังดำเนินไป แต่เมื่อผ่านไปลุงเบนของเราปรับตัวได้ดี และวางตัวได้อย่างเป็นเลิศจนเป็นที่รักของทุกคนในบริษัท โดยเฉพาะสาวเจ้าของบริษัทที่ยังคงอ่อนวัยนัก และมีปัญหารุมเร้าไม่เพียงแต่แค่เรื่องงาน

คุณค่าในตัวเรา

คนแก่หลาย ๆ คนเมื่อแก่ตัวลงแล้ว อาจหมดความมั่นใจในตัวเอง เพราะกิจกรรมหลาย ๆ อย่างที่ไม่สามารถทำได้เหมือนเมื่อก่อน การเกษียณอายุสำหรับคนที่ยังไม่พร้อมก็อาจทำให้สภาพจิตใจต้องได้รับการปรับตัวขนานหนัก ใจยังรังคิดถึงแต่อดีตที่ทำงานทุกวันและอยากหวนคืนทุกเมื่อเชื่อวัน จริง ๆ แล้วการเล่นเดิมพันง่าย ๆ ที่ VWIN สำหรับคนวัยนี้ ก็เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจและแก้เหงาได้ไม่น้อยเลย เผลอ ๆ อาจจะเหนื่อยน้อยกว่าและดีกว่าการหางานทำแบบในหนังด้วย

ในหนังเรื่อง The Intern ที่นอกจากจะพาเราไปรู้จักกับปัญหาในธุรกิจ การทำงานและชั่งตวงระหว่างชีวิตกับหน้าที่ให้สมดุลกันแล้ว ยังจุดประกายเล็ก ๆ ในดวงใจของผู้ชมหลายท่านทีเดียว เมื่อความแก่มาเยือน แต่ความเก่งในตัวของเหล่าคุณลุงคุณป้าคุณตาคุณยายผสานความเป็นผู้ใหญ่มากประสบการณ์นี่แหละ ที่จะเป็นประโยชน์อย่างมาก ไม่ว่ากับงานอะไรก็ตาม

The Intern จึงเป็นภาพยนตร์อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นตัวเลือกที่ดีเวลาอยากจะดูหนังฟีลกู๊ดสักเรื่อง ทั้งยังแฝงแรงบันดาลใจและแรงขับเคลื่อนของการทำงานได้อย่างดี ไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ วัยทำงาน หรือวัยเกษียณ งานที่รักก็ยังคงโชติช่วงสว่างอยู่ในใจเหมือนไฟไม่รู้ดับตราบเท่าที่จะมีแรงทำกันต่อไป ไม่เว้นแม้แต่คนที่ยังมีไฟในหัวใจ ความรู้และปัญหายิบย่อยที่จะได้เจอเมื่อเริ่มต้นธุรกิจแบบสตาร์ทอัพที่เติบโตเร็วเกินไปจนน่าใจหายและยากจะรับมือ ก็คงอินไม่น้อยกับหนังน้ำดีเรื่องนี้

“สายฟ้าทมิฬ” เหาะ ซิ่ง สายฟ้ามหาประลัย เมื่อฮีโร่ผู้ปราบวายร้ายมาพร้อมดอกไม้และความรัก

Black Lightning เหาะทะลุฟ้า ซิ่งมหาประลัย เป็นหนังรัสเซียแนวฮีโร่ที่ออกฉายในปี 2009 และสร้างรายได้ถึง 21.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีพระเอกชื่อ ดิม่า (Dima Maykov) เป็นฮีโร่ที่บังเอิญไปได้รถรุ่นเก่าที่พ่อของเขาซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด รถคันนั้นเกิดเป็นรถที่เหาะได้ขึ้นมา เพราะว่ามีสารเร่งอนุภาคที่นักวิทยาศาสตร์ได้ทดลองไว้อยู่ในรถคนนั้น เขาจึงถูกเหล่าผู้ก่อการร้ายไล่ล่า แถมยังต้องเป็นวีรบุรุษคอยป้องผู้คน และต้องหาเวลามาขับรถส่งดอกไม้เพื่อหารายได้ระหว่างเรียนและแย่งชิงสาวคนรัก กับเพื่อนของเขาที่เป็นลูกเศรษฐีมีรถหรูขับอีกด้วย

เรื่องราวเป็นมาอย่างไร? ทำไม? เขาได้กลายเป็นฮีโร่

เริ่มจากดิม่าและแม็กซ์เพื่อนของเขานั่งอยู่ในห้องเรียน และทั้งสองเกิดปิ๊งนาสท์ยา นักศึกษาสาวสวยที่พึ่งย้ายเข้ามาใหม่ นาสท์ยาและดิม่าสบตากันอย่างรู้ใจ แต่แม็กซ์เป็นลูกคนรวยมีรถหรูขับเขาจึงได้เธอไปควง

ดิม่าเกิดน้อยใจ เขาพูดประชดกับพ่อเขา และในวันถัดมาซึ่งเป็นวันเกิดของเขา เขาได้รับเซอร์ไพรส์จากพ่อด้วยการซื้อรถเก่ากึ๊กให้หนึ่งคัน

ดิม่าโดนเพื่อนแซวจนไม่กล้าที่จะขับรถไปมหาลัย และในวันนั้นเองที่เขาได้พบกับวิคเตอร์จอมวายร้ายในอนาคต วิคเตอร์มาพร้อมในคราบของโปรเฟสเซอร์ ทันทีที่ดิม่าเข้ามาถึงในห้องเขาก็โดนตำหนิต่อหน้าคนทั้งห้อง เขาจึงถามกลับไปว่าถ้ามีคนต้องการความช่วยเหลือในขณะที่เรารีบมาฟังบรรยาย คนพวกนั้นจะเป็นอย่างไร

วิคเตอร์ผู้ซึ่งจะกลายมาเป็นวายร้ายตัวฉกาจในวันข้างหน้า ได้สอนดิม่าว่าผู้คนต้องพึ่งพาตนเอง พร้อมทั้งท้าพนันว่าถ้าไม่ช่วยเหลือผู้คนและไม่มาสาย ยินดีจ่ายให้ 1 ล้านเหรียญ แต่ดิม่าไม่รับเงินและได้ขอคำแนะนำจากวิคเตอร์

วิคเตอร์บอกดิม่าว่าเขาเริ่มต้นจากศูนย์และเริ่มจากการขายดอกไม้ หลังจากนั้นดิม่าขับรถส่งดอกไม่จนพบว่า รถของเขาเหาะได้ และดิม่าก็ไปชวนมาสท์ยาออกเดท หลังมีรายได้จากการขับรถส่งดอกไม้ได้พอสมควร ทั้งคู่คุยกันถูคอและรู้สึกชอบพอกับกัน ในคืนนั้นเธอหอมแก้มเขาก่อนจะกลับเข้าบ้าน

แล้วเหตุการณ์ก็พลิกผัน เมื่อแม็กซ์รู้ข่าว ดิม่ากับแม็กซ์ทะเลาะกัน ดิม่าเผลอพูดคำ ๆ หนึ่งออกมาเพราะว่าความโมโห จึงทำให้นาสท์ยาโกรธและกลับไปคบกับแม็กซ์

ในขณะที่ดิม่าขับรถส่งดอกไม้ ฝ่ายวายร้ายสมุนของวิคเตอร์ก็ไล่ล่าตามหารถเหาะของเขา เพราะในนั้นมีสารเร่งอนุภาคที่ทำให้วิคเตอร์จอมวายร้ายสามารถเจาะเอาเพชรปริมาณมหาศาล ที่เป็นฐานรองรับเมืองทั้งเมืองเอาไว้ ซึ่งถ้าวิคเตอร์ทำสำเร็จเมืองทั้งเมืองก็จะถล่มลงมา

ฝ่ายดิม่าที่กำลังสนุกกับการส่งดอกไม้ จนในวันหนึ่งพ่อของเขาถูกฆ่าตายจากผู้ร้ายวิ่งกระชากกระเป๋า เพียงเพราะเขาไม่ยอมทิ้งงานและไม่ให้ความช่วยเหลือผู้คน ในตอนนั้นที่หญิงชรามาขอความช่วยเหลือ เขาไม่คิดว่าคนที่บาดเจ็บอยู่ในตรอกเล็ก ๆ นั้นจะเป็นพ่อของเขา

หลังจากที่พ่อเขาตายเขาเสียใจและคำพูดประโยคหนึ่งที่สะกิดใจเขา คือคำพูดของน้องสาวเขาที่ว่า “ต่อไปนี้พี่ต้องทำหน้าที่แทนพ่อ พี่ต้องล้างจานและช่วยเหลือผู้คน”

หลังจากนั้น “สายฟ้าทมิฬ” ก็ถือกำเนิดเกิดขึ้น มาพร้อมกับรถเหาะที่ปราบเหล่าร้าย และชายในชุดดำผู้ลึกลับ ก็เป็นที่รู้จักกันทั่วทั้งเมืองในนาม “สายฟ้าทมิฬ”

และเหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป “สายฟ้าทมิฬ” จะสามารถปราบวายนร้ายได้หรือไม่ และนาสท์ยาจะกลับมารักเขาหรือเปล่าลองเสาะหามาดูกัน หนังที่ให้ทั้งความสนุกสนาน ฉากแอคชั่นมัน ๆ ที่สู้กันด้วยรถเหาะ และให้แง่คิดดี ๆ แนวฮีโร่ปราบคนร้าย ก็ต้องเรื่องนี้แหล่ะที่ขอแนะนำ Black Lightning เหาะทะลุฟ้า ซิ่งมหาประลัย

Ice Princess ไอซ์ พริ้นเซส สเก็ตหัวใจแรงเกินฝัน หนัง Feel Good เติมกำลังใจ

Ice Princess เป็นหนังเกี่ยวกับกีฬาสเก็ตน้ำแข็ง ที่เข้าฉายในปี 2005 เป็นเรื่องราวชีวิตวัยรุ่นของ เคซี่ คาไล สาวน้อยที่ชื่นชอบการเล่นสเก็ตน้ำแข็งในบึงข้างบ้าน เด็กเนิร์ดที่ได้รับคำแนะนำจากอาจารย์วิชาฟิสิกส์ว่าเธอมีความสามารถและเป็นไปได้ที่จะขอทุนการศึกษาในด้านนี้ เธอต้องทำโครงการวิทยาศาสตร์ที่เธอสนใจเกี่ยวกับฟิสิกส์เพื่อขอทุนและสมัครเข้าเรียนที่มหาลัยฮาร์วาร์ด เมื่อสิ่งที่เธอชอบกับอนาคตการศึกษามาบรรจบกันเธอเลือกที่จะหาสูตรทางฟิสิกส์ในการเล่นสเก็ตน้ำแข็ง การหาสูตรฟิสิกส์ดูจะไม่ใช่ปัญหาของเธอ แต่การจะทำให้โครงการของเธอดูมีชีวิตชีวา เธอจำเป็นต้องใส่หัวใจของเธอเข้าไปในงานให้มากกว่านี้ และเธอเลือกจะมีประสบการณ์ในการเล่นสเก็ตน้ำแข็งด้วยตัวเธอเอง

เคซี่เก็บข้อมูลการเล่นสเก็ตน้ำแข็งและฝึกฝนสเก็ตที่โรงเรียนสอนสเก็ตน้ำแข็งกับแม่ของเจนเพื่อนที่โรงเรียน หลังจากที่เธอส่งโครงการฟิสิกส์ การฝึกฝนของเธอก็ก้าวหน้าไปด้วย ข้อสมมุติฐานทางฟิสิกส์เหมือนจะไปได้ดีกับการฝึกของเธอและเพื่อนที่เล่นสเก็ตน้ำแข็งกับเธอ เคซี่พยายามมากขึ้นเพื่อจะลงแข่งสเก็ตน้ำแข็ง เธอฝึกหนักขึ้น เธอทำงานพาร์ทไทม์สำหรับค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น และอ่านหนังสือดึกขึ้นเพื่อเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยอีกด้วย พรสวรรค์ของเคซี่ ก็ค่อย ๆ เปล่งประกายขึ้น และมันช่วยพาเธอเข้ารอบในการแข่งขัน การแข่งขันก็คือการแข่งขันไม่ใช่ทุกคนจะเป็นผู้ชนะ ก็เหมือนกับชีวิตที่ไม่ใช่ทุกคนจะสมหวังไปหมดทุกสิ่ง ในขณะที่ตัวเคซี่เองค่อย ๆ ชอบสเก็ตน้ำแข็งมากขึ้น แต่แม่ของเคซี่กลับซีเรียสกับอนาคตการศึกษาของเธอ ไม่ชอบที่เคซี่เสียเวลาไปกับการเล่นสเก็ตน้ำแข็ง และยิ่งกว่าการซ้อมแม่ของเธอไม่ชอบการแต่งตัวของนักสเก็ตน้ำแข็งมาก ๆ

เมื่อแต่ละคนมีความฝันไม่เหมือนกัน เคซี่อยากเล่นสเก็ตน้ำแข็งและไปให้ไกลกว่าเดิม ส่วนแม่ของเคซี่อยากให้ลูกสาวได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เจนเพื่อของเคซี่นักกีฬาสเก็ตน้ำแข็งที่อยากมีชีวิตเหมือนเด็กสาวธรรมดา อยากมีวันหยุด อยากใช้เวลากับแฟนหนุ่ม ส่วนแม่ของเจนกลับอยากให้ลูกสาวได้เป็นแชมป์สเก็ตน้ำแข็ง บางครั้งเราอยากให้คนที่เรารักมาเติมเต็มความฝันแทนตนเองแม้ว่ามันจะเป็นกรงขังเค้าไว้ก็ตาม แต่ไม่ว่าอย่างไรการค้นหาของตัวเองไม่สามารถทำแทนกันได้และพรสวรรค์ที่มีอาจไม่ช่วยในการหาคำตอบ มาเป็นกำลังใจให้เคซี่ในการค้นหาทางเดินของเธอ ทางที่จะทำให้หัวใจเต้นแรง ทางที่มีความหมาย Ice Princess เป็นหนังอีกเรื่องที่จะทำให้คุณอิ่มอกอิ่มใจ เหมือนได้เติมกำลังใจสำหรับกลับไปใช้ชีวิตที่คุณเลือกไว้ให้มีชีวิตชีวายิ่งขึ้น

Ocean’s Eleven หนังโจรกรรมสุดเท่แห่งยุค

หนังโจรกรรม ที่เข้าฉายในปี 2001 เรื่องราวของ แดนนี่ โอเชี่ยน (รับบทโดย จอร์จ คลูนีย์) ที่พ้นโทษหลังจากถูกจำคุก 4 ปี และภายในเวลา 24 ชั่วโมง แดนนี่ก็ดำเนินแผนปล้นครั้งต่อไปทันที แผนครั้งนี้ใหญ่กว่าเดิมโดยมีเป้าหมายคือคาสิโน 3 แห่งที่ลาส เวกัส ทั้ง 3 แห่ง มีเจ้าของเดียวกันชื่อ เทอรี่ เบเนดิก (รับบทโดย แอนดี้ การ์เซีย) เงินจากทั้ง 3 คาสิโนถูกเก็บไว้ในห้องนิรภัยที่สร้างขึ้นมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ดีที่สุด การปล้นครั้งนี้ความเสี่ยงสูงมากแต่ผลตอบแทนก็สูงเช่นกัน คาดว่ามีเงินในห้องนิรภัยถึง 150 ล้านเหรียญ แดนนี่เริ่มต้นสร้างทีมจาก รัสตี้ (รับบทโดย แบรด พิตต์) คู่หูนักต้มตุ๋นตั้งแต่ก่อนเข้าคุก ทีมใหม่ที่สร้างขึ้นเป็นการรวมตัวของสมาชิกฝีมือดี ได้แก่ นายทุน เจ้ามือแบล็กแจ็ก คนสอดแนมที่เชี่ยวชาญด้านการขโมยข้อมูลคอมพิวเตอร์ คนขับรถ นักประดิษฐ์ มือระเบิด นักกายกรรม นักปลอมตัว และนักล้วงกระเป๋า

แผนถูกวางไว้อย่างดี เจ้ามือแบล็กแจ็กย้ายมาประจำยังคาสิโนเป้าหมาย ห้องนิรภัยถูกจำลองขึ้นเพื่อซักซ้อม กล้องวงจรปิดในคาสิโนถูกขโมยสัญญาณ นักธุรกิจค้าอาวุธเป็นตัวละครที่ปลอมมาเพื่อติดต่อกับเบเนดิก แผนการขโมยรหัสความปลอดภัย การเข้าถึงตู้เซฟและการเปิดเซฟถูกเตรียมอย่างละเอียด เรื่องราวใหญ่โตถึงขนาดไปขโมยเครื่องมือในการตัดสัญญาณไฟฟ้าของเมืองลาสเวกัสทั้งเมือง ความสนุกของหนังอยู่ตรงแผนการที่รัดกุม เหตุการณ์เฉพาะหน้าที่ไม่คาดคิด และการเล่าเรื่องที่ค่อยๆ เผยแผนการทีละน้อย และที่สำคัญแดนนี่ไม่ได้หวังแค่เงินในตู้ห้องนิรภัย นั่นคือการทวงคืนเทส (รับบทโดย จูเลีย โรเบิร์ตส์) ภรรยาเก่าของแดนนี่ที่กำลังคบหาอยู่กับเบเนดิก เมื่อการปล้นปนเปไปกับการทวงคืนภรรยาเก่า เรื่องราวจึงวุ่นวายขึ้นเรื่อย ๆ

ก่อนที่แดนนี่จะติดคุก เค้าเคยโกหกเทสว่าไม่ได้ปล้น แต่ดูเหมือนเค้าจะโกหกจนเทสไม่เชื่อใจเขาอีกแล้ว กลับมาครั้งนี้เค้าสัญญากับเทสว่าจะไม่ทำเหมือนเดิมอีก แน่นอนว่าแดนนี่ไม่ได้จะหยุดปล้นแต่เค้าจะหยุดโกหก เรื่องนี้อาจมีบางคนเอาใจช่วยเบเนดิกที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย ตั้งใจทำงานและรักเทสมาก หากเรื่องนี้เป็นเกมการปล้นและเกมความรักระหว่างแดนนี่และเบเนดิก ตอนจบจะเป็นอย่างไร แดนนี่จะได้ใจภรรยาเก่ากลับคืนมาหรือไม่ และผลการปล้นทีมโอเชี่ยน ครั้งนี้จะเฉียบขนาดไหน คงต้องหาเรื่องนี้มาดูกันอีกครั้ง ด้วยการรวมตัวของนักแสดงมือดีคับคั่งและลวดลายการเล่าเรื่องของผู้กำกับสตีเวน โซเดอร์เบิร์กห์ หนังได้กวาดรายได้ไปอย่างถล่มทลาย Ocean’s Eleven ได้กลายเป็นที่จดจำของหนังโจรกรรมสุดเท่แห่งยุค และเป็นการเริ่มต้นแฟรนไชส์ ของหนังภาคต่อของจักรวาล Ocean’s ได้แก่ Ocean’s Twelve (2004), Ocean’s Thirteen (2007), และ Ocean’s 8 (2018)

Miss Sloane เธอโลกทึ่ง – ชีวิตของคุณ คุณจะใช้มันเพื่ออะไร?

หนังดราม่า การเมือง ที่เข้าฉายที่ไทยในปี 2017 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ อลิซาเบ็ธ สโลน หรือลิสซ์ นักล็อบบี้ยิสต์แถวหน้าของอเมริกา ที่ปฏิเสธการทำงานให้กับฝ่ายธุรกิจปืน แต่เลือกทำงานให้กับฝ่ายตรงข้ามที่ต้องการให้ผ่านร่างกฎหมายควบคุมอาวุธปืน การแสดงไหวพริบของทั้งสองฝ่ายเป็นไปอย่างเข้มข้นเพื่อล็อบบี้เสียงจากสมาชิกในสภา เนื้อเรื่องส่งให้ ลิสซ์ เป็นตัวเอกที่มีบุคลิกโดดเด่น ฉลาดและเจ้าแผนการ โดยเดินเรื่องผ่านงานล็อบบี้ยิสต์ของเธอ นอกจากจะได้เห็นการต่อสู้ด้วยแผนการต่าง ๆ เพื่อเป้าหมายของแต่ละฝ่ายแล้ว ตัวหนังยังชวนให้คนดูสงสัยในความรู้สึกของลิสซ์ด้วยว่า ในแต่ละการตัดสินใจและผลที่เกิดขึ้น เธอยังมีความรู้สึกอยู่หรือไม่ ถ้ามีจะรู้สึกอย่างไร

ประเด็นการครอบครองอาวุธปืนในประเทศอเมริกา ถูกยกขึ้นมาถกเถียงทุกครั้งที่เกิดเหตุสลดใจเมื่อมีการกราดยิงในที่สาธารณะโดยเฉพาะในโรงเรียน ฝ่ายหนึ่งต้องการให้ผ่านร่างกฎหมายเพื่อให้เกิดการตรวจสอบประวัติก่อนการซื้อปืน เพื่อให้คนไม่ดีที่ต้องการซื้อปืนยุ่งยากมากขึ้น ในขณะที่ฝ่ายธุรกิจปืนต้องการคว่ำร่างกฎหมายโดยต้องการสร้างค่านิยมใหม่ที่ผู้หญิงจะลุกขึ้นมาครอบครองปืนเพื่อปกป้องตัวเองและคนที่รัก ความขัดแย้งชัดเจนขึ้นเรื่อง ๆ โดยเฉพาะเมื่อร่างกฎหมายควบคุมอาวุธปืนกำลังจะเข้าสภา ทั้งสองฝ่ายต้องเดินเกมเต็มที่เพื่อชัยชนะครั้งนี้ ฝ่ายธุรกิจปืนเลือกลิสซ์อย่างเจาะจงจากผลงานที่ผ่านมา แน่นอนว่าข้อตกลงนี้จะทำรายได้ก้อนโตให้กับบริษัท แต่เธอกลับปฏิเสธเพราะงานนี้ไม่ตรงกับจุดยืนของเธอ เวลาเดียวกันฝ่ายตรงข้ามก็ให้ข้อเสนอกับเธอเช่นกัน เป็นข้อเสนอจากบริษัทที่มีงบประมาณน้อยกว่าอีกฝ่ายอย่างเทียบไม่ได้ และข้อตกลงก็เสนอด้วยกระดาษฉีกเพียงแผ่นเดียวพร้อมข้อความถึงความท้าทายที่มากกว่าแค่ชัยชนะ

ในอีกแง่หนึ่งคือ ลิสซ์คือล็อบบี้ยีสต์ที่มีชื่อเสียงเลวร้าย เธอพร้อมจะหาช่องโหว่จากทุกกฎเกณฑ์เพื่อพาเธอไปถึงเป้าหมาย การโกหกไม่ใช่เรื่องที่ต้องคิดอะไรถ้ามันจะทำให้ไปถึงเป้าหมาย การใช้ไม้อ่อนและไม้แข็งในการล็อบบี้ ไม่ว่าจะเป็นการให้ผลประโยชน์หรือการแบล็กเมล์ และแน่นอนเธอไม่เคยทิ้งร่องรอย ลิสซ์มีทุกอย่างพร้อมสำหรับชัยชนะแต่เธอไม่สามารถไว้ใจใครได้ เธอไม่สามารถมีความสัมพันธ์ได้ และเธอไม่สามารถหลับตาลงนอนได้ เนื้อเรื่องดำเนินไปคู่ขนานระหว่างแผนการเพื่อชัยชนะและความกดดันจากผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีใครรู้อนาคตและไม่มีใครรู้ว่าความสำเร็จจะต้องแลกมาด้วยการสูญเสียอะไรไปบ้าง และไม่ว่าความท้าทายครั้งใหม่นี้จะพาชีวิตของเธอไปพบกับอะไร เธอก็พร้อมเผชิญหน้า หนังเรื่องนี้จะพาคุณลุ้นไปกับแผนการซ้อนแผนการ ความรู้สึกภายใน และอาจนำไปสู่การทบทวนเป้าหมายในชีวิตอีกครั้ง เราทุกคนล้วนมีชัยชนะของตัวเองที่ใฝ่ฝันแต่หากมันต้องแลกมาด้วยอะไรบางอย่าง คุณพร้อมจะเลือกหรือไม่? ชีวิตของคุณคุณจะใช้มันเพื่ออะไร?

Moneyball: The Art of Winning an Unfair Gam เบื้องหลังชีวิตนักเบสบอล

เบื้องหลังชีวิตนักเบสบอลที่ดูยิ่งกว่าละคร แต่ทว่าสร้างจากเรื่องจริงของชีวิตนักเบสบอลในทีมเมเจอร์ลีก อีกหนึ่งความน่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการตามติดชีวิตของผู้จัดการทีมเบสบอล ชีวิตในช่วงวิกฤติของการเงิน โดยที่เขาต้องเผชิญกับปัญหาจัดหาทุนสำหรับทีม นับเป็นสิ่งที่ยากลำบากในช่วงชีวิตของการเป็นผู้จัดการทีม เมื่อไม่มีเงินทุนในการซื้อนักเล่นบาสเก่ง ๆ ก็ทำให้ฟอร์มของทีมลดลงเรื่อย ๆ เขาจะแก้ปัญหาวิกฤติชีวิตการเป็นผู้จัดการทีมได้อย่างไร อ่านรีวิวแล้วคุณจะรู้

เบเนท มิลเลอร์ กับผลงานฝากชื่อ

สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นผลงานอันฝากชื่อเบนเนท มิลเลอร์ ผลงานของเขาที่โดดเด่นจนเป็นผลงานสร้างชื่อเรื่องแรก นั่นก็คือเรื่อง Capote และหลังจากนั้นให้หลัง 6 ปี เขากลับมาด้วยผลงานภาพยนตร์เลื่องชื่อ อย่าง Moneyball: The Art of Winning an Unfair Gam บทบาทของในฐานะผู้กำกับในภาพยนตร์เรื่องนี้ คือผลงานที่สร้างชื่อของเขา ทั้งดราม่าน้ำตานอง บวกกับการกำกับที่โดดเด่นเร้าอารมณ์ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ตราตรึงใจหลายต่อหลายคน

สิ่งที่ได้จากภาพยนตร์…ข้อคิดที่หลายคนซึ้งใจ

หากคุณได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้สิ่งที่จะได้รับอย่างแรกก็คือ ความเชื่อมั่นในความคิดที่เรานั้นมีอยู่ เชื่อในความฝันของตัวเอง อาจจะมีบ้างบางคราวที่เรามีความตั้งใจจะทำอะไรสักอย่างหนึ่ง หากไปขอความคิดเห็นของคนอื่น ๆ บางครั้งอาจจะเจอความคิดที่สกัดให้เราไม่สามารถเดินก้าวข้ามฝันได้ สิ่งที่สำคัญไปกว่าการขอคำปรึกษาจากใครสักคน ก็คือการเชื่อมั่นในความคิดของตัวเอง เช่นเดียวกับการเดิมพัน แม้จะมีสูตรมีคำแนะนำมากมาย แต่การเชื่อมั่นในเสียงตัวเอง คือสิ่งที่ VWIN ยันยันว่าดีที่สุด ในที่สุดก็ก้าวไปถึงฝั่งฝันเพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่เราทำนั้นไม่ใช่แค่ความฝันลม ๆ แล้ง ๆ นอกจากการเชื่อในความฝันของตัวเองแล้ว การเอาชนะคือสิ่งที่เราควรมุ่งมั่นให้ได้มากที่สุด แม้โอกาสในการชนะจะไม่มากสักเท่าไร แต่หากเรามุ่งมั่นที่จะชิงชัย โดยไม่จำกัดวิธีการ ก็คือสิ่งที่จะทำให้เราไปสู่ความสำเร็จได้แบบไม่ยากเย็นเกินไปนัก อย่างสิ่งที่บีน ตัวเอกของเรื่องทำก็คือไม่ใช่การทุ่มเทเงินทองเพื่อซื้อนักเบสบอลเก่ง ๆ มา แต่เป็นการมองหานักเบสบอลที่ไม่ได้เล่นแบบเพอร์เฟ็กต์ แต่ทว่ามีความโดดเด่นจุดใดจุดหนึ่งและนำมาพัฒนาต่อจนกลายเป็นนักเบสบอลที่สมบูรณ์แบบได้

หนังที่ดูสนุกได้โดยไม่จำเป็นต้องดูเบสบอลเป็น หลาย ๆ คนเมื่อเห็นว่าเป็นภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับเบสบอลก็อาจจะคิดว่าต้องดูเบสบอลเป็นด้วยหรือไม่ แต่แท้ที่จริงแล้ว Moneyball: The Art of Winning an Unfair Gam เป็นภาพยนตร์ที่ใครก็ดูได้ แม้จะสร้างและเขียนบทจากเรื่องจริงก็ตาม สิ่งที่เป็นจุดแข็งของเรื่องนี้ก็คือการแสดงที่โดดเด่น มีฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก ใช้สมองอย่างมาก หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังท้อแท้กับความฝัน การดูภาพยนตร์เรื่องนี้คือสิ่งที่ไม่ควรพลาด

Moneyball-เกมล้มยักษ์: เมื่อโลกเปลี่ยนไป คุณจะเลือก ล้าหลังแบบเก่าหรือเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง

ภาพยนตร์กีฬา ที่เข้าฉายในปี 2011 สร้างขึ้นจากหนังสือชื่อเดียวกันที่ออกมาในปี 2003 และเป็นเรื่องจริงของชีวิต บิลลี่ บีน และทีมโอ๊คแลนด์ แอธเลติกส์ในฤดูกาลแข่งขันปี 2002 เรื่องเล่าถึงวงการเบสบอลที่ไม่ยุติธรรมในการจัดการทีมเมื่อมีทีมรวย ทีมจน และทีมที่แย่กว่าคำว่าจน แน่นอนว่าตัวดำเนินเรื่องมาจากทีมที่ฐานะทางการเงินต่ำที่สุดใน 3 ประเภท บิลลี่ บีน เป็นผู้จัดการทีมโอ๊คแลนด์ แอธเลติกส์ ที่ผู้เล่นหลัก 3 คนถูกซื้อตัวไปด้วยเงินก้อนโตจากสโมสรที่ใหญ่กว่า ในโลกเบสบอลที่ชัยชนะเข้าข้างทีมที่มีเงินเยอะพอจะซื้อผู้เล่นที่เก่งกว่า ดีกว่าได้ ในขณะที่ทีมจนกว่าก็หาได้แต่ผู้เล่นที่รองลงมา ขณะที่บีนกำลังเจรจาซื้อตัวนักเล่นทดแทนสมาชิกที่ถูกซื้อตัวไป เขาได้พบ ปีเตอร์ แบรนด์ หรือพีท นักวิเคราะห์ที่ทำงานให้กับทีมที่บีนไปติดต่อขอซื้อผู้เล่น แม้ว่าพีทคือตัวการทำให้การซื้อขายครั้งนั้นไม่สำเร็จ แต่บีนเลือกจ้างพีทมาเป็นผู้ช่วยของตัวเองแทน

บิลลี่ บีน เป็นอดีตผู้เล่นเบสบอลดาวรุ่นที่ได้ทำสัญญาเป็นผู้เล่นอาชีพตั้งแต่อายุน้อย แต่อนาคตกลับไม่ได้ไปไกลอย่างที่ฝัน เค้าไม่สามารถแสดงความสามารถในสนามได้อย่างที่ถูกคาดหวังไว้ สุดท้ายบีนเลือกที่จะผันตัวเองมาเป็นผู้จัดการทีมจนถึงเหตุการณ์ในเรื่องเขามีอายุ 44 ปี ปีเตอร์ แบรนด์ หรือพีท เรียนจบเศรษฐศาสตร์ มหาลัยวิทยาลัยเยล อายุ 25 ปี พีทได้กลายเป็นผู้ช่วยบีน มีหน้าที่ผู้วิเคราะห์ผู้เล่นด้วยสถิติ และเลือกซื้อผู้เล่นที่ควรค่าแก่ความสามารถ มีหลายคนที่ถูกอคติในวงการเบสบอลตีค่าต่ำกว่าที่ควรจะเป็น บีนและพีทเลือกที่จะใช้วิธีที่แตกต่างในการจัดการทีมเบสบอลอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ และแน่นอนไม่มีใครในบอร์ดเห็นด้วยกับวิธีนี้

“มันสำคัญที่จะอธิบายให้ตัวเองมั่นใจในสิ่งที่เลือกต่างหาก ไม่สำคัญว่าใครจะต้องเข้าใจหรือไม่” เป็นสิ่งที่บีนคุยกับพีท ระหว่างที่แรงเสียดทานต่อการเปลี่ยนแปลงถาโถมเข้ามา บีนสร้างทีมขึ้นมาใหม่ด้วยความเชื่อต่อข้อมูลที่ได้จากพีท ผู้เล่นหลายคนที่ไม่ได้รับการเหลียวแลจากทีมใหญ่ ๆ ถูกติดต่อไปให้มาร่วมทีมกับโอ๊คแลนด์ แอธเลติกส์ ทีมใหม่ถูกสร้างขึ้นมา โค้ชค่อย ๆ ถูกทำให้ยอมรับวิธีคิดของบีน สุดท้ายเมื่อแผนการวางดีแล้ว ดำเนินการแล้ว จัดการทุกอย่างได้ตามแผนแล้ว ผลลัพธ์ก็ค่อย ๆ พิสูจน์ตัวเองออกมา เกิดเป็นสถิติใหม่ในการชนะ 20 เกมรวดติดต่อกันครั้งแรกในประวัติศาสตร์ นี่เป็นโอกาสที่บีนจะปฏิวัติวงการเบสบอลที่ไม่ใช่แค่ทีมรวยเท่านั้นที่จะมีสิทธิชนะ แต่แค่ชัยชนะติดต่อกันคงไม่เพียงพอ และทีมโอ๊คแลนด์ แอธเลติกส์ เพราะสุดท้ายพ่ายแพ้และไม่ได้แชมป์ในฤดูกาลนั้น อย่างไรก็ตามจำนวนครั้งที่ชนะของทีมโอ๊คแลนด์ แอธเลติกส์ ที่พอ ๆ กับทีมรวย ๆ แต่กลับใช้งบประมาณน้อยกว่าถึง 6 เท่า Moneyball กลายเป็นโมเดลให้กลับทีมใหญ่ในการคว้าแชมป์ต่อมา

หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของการต่อสู้ทั้งในสนาม และการต่อสู้ทางความคิด ไม่ว่าคุณจะชอบกีฬาเบสบอล สนใจตัวอย่างการลงทุน ต้องการสร้างกำลังใจหรือหาข้อคิดดี ๆ หรือเพื่อความบันเทิง Moneyball ตอบได้ทุกโจทย์ บอกได้คำเดียวว่าแล้วคุณจะรักหนังเรื่องนี้เมื่อดูจบ