Knives out นักสืบแห้ว ฆาตรกรห่วย และชะตาของคนดวงซวย

เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนผ่าน หลักการการนำ Genre ของหนังมาผสานกันก็เริ่มเปิดกว้างขึ้นทุกที เหมือนกับที่ Knives out บัญญัติตัวเองไว้ในหมวดหนังสืบสวนพ่วงคอมเมดี้เล็ก ๆ และถึงแม้จะโปรยชื่อไทยเอาไว้ว่า ฆาตกรรมหรรษาใครฆ่าคุณปู่ ก็ตามที ทว่าตัวหนังไม่ได้เล่าผ่านบทของนักสืบเหมือนหนังสืบสวนทั่ว ๆ ไป ยังมีฟากของฆาตกรที่กลมกลืนไปกับเรื่องได้อย่างน่าสนใจ

นักสืบผู้ไขคดีด้วยรอยยิ้ม

Knives out มีความโดดเด่นเป็นอย่างมากเรื่องของบัลลังก์มีดที่ถูกใช้ประกอบฉาก ในเกือบทุก ๆ ฉากที่มีความสำคัญกับเรื่อง แถมยังเป็นพร้อมเสริมที่ขับให้ชื่อเรื่องโดดเด่นในตัวของมันเอง ทั้งในแง่ของความหมายคำว่า Knives หรือความนัยที่ผู้กำกับจงใจซ่อนไว้ก็ตามแต่

บรรยากาศในเรื่องเป็นไปอย่างไม่เคร่งเครียดมากนัก ถึงแม้จะมีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นก็ตามที การปรากฏตัวของนักสืบชื่อดัง Benoit Blanc ที่รับบทโดยดารารุ่นใหญ่วัยเก๋าอย่าง แดเนียล เคร็ก หรือที่หลาย ๆ คนรู้จักกันในบทบาทของ สายลับเจ้าเสน่ห์อย่าง เจมส์บอนด์ ที่การพลิกบทบาทของเขาในเรื่องนี้ทำให้การสืบสวนหลุดจากกรอบความรู้สึกอย่างที่หนังสืบสวนเรื่องอื่น ๆ ได้ทำเอาไว้ อารมณ์ขันเล็ก ๆ ที่สอดแทรกตลอดเรื่อง ในบทสนทนา ลูกล่อลูกชนที่มีไว้ต่อกรกับ ฆาตรกร ในเรื่องเป็นไปได้อย่างแยบยล

อีกหนึ่งสิ่งที่หลีกเลี่ยงจะพูดถึงไม่ได้ของ คริส อีแวนส์ ก็เป็นสิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้มีความน่าสนใจไม่น้อย แม้การแสดงของเขาจะเป็นที่ยอมรับอยู่แล้วก็ตาม ทว่าตัวละครสำคัญในเรื่องอย่าง Ransom ที่ได้หน้าตาอันหล่อเหลาฉุนเฉียวของคริสมาประกอบก็กลายเป็นองค์ประกอบที่พลาดไม่ได้ของเรื่องทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้น นักแสดงเบอร์ต้น ๆ หลาย ๆ ท่านก็สามารถขับเน้นบุคลิกอันหลากหลายของคนภายในบ้านออกมาได้อย่างเฉียบขาดและเป็นที่จดจำอย่างมากที่สุด

อันที่จริงในส่วนของเนื้อเรื่องที่จะพาให้เราคิดตาม ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่าไม่ใช่การคิดไล่ล่าตามว่าใครคือฆาตกร แต่จะเป็นการคิดสองฝั่ง คือการช่วยลุ้นให้ฆาตกรรอดพ้นจากข้อกล่าวหา หรือช่วยลุ้นให้คุณนักสืบสอบสวนคดีได้สำเร็จ และมีเหตุผลใด ๆ บางข้อที่อาจทำให้เรื่องนี้ดูเหนือจริงไปเสียหน่อย

หนังสืบสวนที่เสียดแทง

อย่างไรก็ตาม Knives Out ก็เป็นอีกหนึ่งหนังสืบสวนเรื่องใหม่ ๆ ที่ทำให้เราได้เปิดใจกับการเสพเนื้อเรื่องในแนวใหม่ ๆ ในวิถีการเล่าที่แตกต่างไปจากเดิม ทั้งนี้ก็ยังคงเป็นภาพยนตร์เรื่องที่คุ้มค่าต่อค่าตั๋วอยู่ดี เพราะภาพในฉากต่าง ๆ ได้ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี ในแง่ของศิลป์และศาสตร์ ทำให้ผู้ชมเกิดอารมณ์ร่วมและมีภาพจำเกี่ยวกับเรื่องราวนั้น ๆ ได้อย่างชัดเจน เป็นต้นว่าวงกลมใบมีดที่พุ่งเข้าหัวคนนั่งเก้าอี้ตรงหัวโต๊ะที่ไม่ว่าอย่างไรก็คงติดตาทั้งผู้ชมที่ชอบและไม่ชอบหนังเรื่องนี้อย่างแน่นอน

The Notebook สมุดเล่มหนึ่ง ที่ว่าด้วยความรัก

The Notebook ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในหนังอมตะนิรันดร์กาลของ นิโคลัส สปาร์ค ที่โด่งดังทั้งตัวนิยายหรือหนังเอง เป็นต้นแบบของคำว่า Summer Love ที่ติดตรึงใจของใครหลาย ๆ คน ความรักที่ไม่อาจไปจับวางหรือขีดเส้นต้านเอาไว้ได้คือความประสงค์อันหอมหวานในวัยเยาว์ แต่ในช่วงเวลาที่เราแก่ตัวลงและความรักไม่ใช่ทุกอย่างที่จะพาให้ชีวิตดำเนินไปได้อย่างปกติสุข นั่นคือรอยแยกขนาดใหญ่ ที่ใครบางคนเต็มใจกระโดดลงไปในหลุมอีกครั้ง

เปิดอ่านทีละหน้า

Rachel McAdams ได้แจ้งเกิดจากหนังเรื่องนี้ในบทของแอลลี่ สาวผู้พบรักกับเด็กหนุ่มในช่วงพักร้อนแค่สั้น ๆ พ่อและแม่ของเธอไม่เคยเห็นดีหรือให้ความสำคัญใด ๆ กับความสัมพันธ์กันฉาบฉวยนี้ กลับกัน ตัวเธอเอง แอลลี่ และโนอาห์ ที่รับบทโดย Ryan Gosling ชายหนุ่มที่ไม่เคยหยุดคิดถึงความรักในฤดูร้อนครั้งนั้น และเมื่อใดที่กลับมาพบกัน ก็ดึงดูดกันอย่างรุนแรงราวแม่เหล็กถวิลขั้ว ความรักอันเป็นจุดแข็งนี้เองที่ทำให้เรื่องราวใน The Notebook ถือกำเนิดขึ้นมา อย่างไม่ธรรมดา แต่กลับซึมลึกลงไปในใจของผู้ชมไม่ต่างจากฝนที่เปียกปอนกระทบดิน    

และ The Notebook ยังทำให้เราเห็นความแตกแยกที่ระหองระแหงในความรัก ยิ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าความขัดแย้งในความสัมพันธ์ไม่ใช่แผลเป็นหรือรอยตำหนิที่มีต่อรูปปั้นใด ๆ ที่คู่รักบรรจงสร้างไว้ร่วมกัน ทว่ากลับเพิ่มความล้ำลึกและกลมกลึงให้กับมัน เพราะการได้เห็นกันในทุก ๆ ด้าน การทะเลาะเบาะแว้งและออกปากเสียงใด ๆ ที่คู่รักมีต่อกัน อย่างที่แอลลี่กับโนอาห์เคยได้พานพบ นั่นคือจุดสำคัญของการประคองรัก และน่าประทับใจอย่างยิ่งที่มันถูกบรรยายไว้ในหนังได้อย่างครบถ้วน ไม่ได้เลือกให้เราเห็นเพียงแต่ความหวานชื่น หรือรสชาติร้อนแรงของการร่วมรักและรอยจูบ

The Notebook มีความพิเศษในตัวของมันโดยที่ไม่ได้กล่าวถึงวีรบุรุษผู้กอบกู้โลก หรือราชินีที่ครองบัลลังก์แสนยิ่งใหญ่ กลับเป็นเพียงเรื่องราวธรรมดา ๆ ของคู่รักธรรมดา ๆ ที่อยู่กันจนแก่เฒ่าและใช้ชีวิตอย่างธรรมดา ๆ จะมีโชคชะตาที่แวะเวียนเข้ามาก่อกวนให้เกิดความโกลาหลบ้างในบางครั้ง แต่ท้ายที่สุดแล้วนี่เอง ความธรรมดาทั้งหลายแหล่ที่ผู้เขียนและผู้กำกับตั้งใจจะสื่อให้เราเห็น เล่าให้เราฟัง กลับกลายเป็นความจับใจอย่างที่หนังเรื่องไหนก็ไม่อาจหามาให้ได้ เรื่องราวที่แสนตื้นเขิน ไร้ความตื่นเต้นและเร้าใจใด ๆ ให้ร่วมวิเคราะห์ เป็นเพียงแต่ความรักที่ให้เราชื่นชมดื่มด่ำเพียงเท่านั้น

หนังในรูปแบบหนังสือที่ต้องเก็บไว้อ่าน

The Notebook คงเป็นหนังเรื่องหนึ่งในลิสต์ที่หลาย ๆ คนอาจเก็บไว้อยู่แล้วถ้าหากเป็นคนชอบเสพหนังรัก เรียกได้ว่าไม่ว่าจะเสิร์จดูจากไหน ก็คงไม่แคล้วมีคนแนะนำเรื่องนี้ แต่กระนั้นเองด้วยตัวเนื้อในของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้พิสูจน์ตัวมันเองแล้วว่าทำไมจึงคู่ควรอยู่บนหิ้งจัดอันดับของนักดูหนังรักทั่วโลก ว่ามันคือความทรงจำอันแสนหอมหวานและเปียกป้อนไปด้วยสายฝนที่กลั่นมาจากหยาดน้ำตา