สวนกระแสความวุ่นวายในฝรั่งเศส ด้วยการย้อนไปดูหนังรักโรแมนติกในดวงใจ Midnight in Paris

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Midnight in Paris โดยผู้กำกับ วู้ดดี้ อัลเลน เรื่องนี้อบอวลไปด้วยความโรแมนติก แถมยังขับกล่อมให้คนดูหลงใหลในมนต์เสน่ห์และตกหลุมรักเมืองปารีสเข้าอย่างจัง พาเราให้หลุดเข้าไปในโลกจินตนาการและได้ปลดปล่อยความเพ้อฝันในช่วงเวลาเพียง 94 นาที

Midnight in Paris (2011) เป็นภาพยนตร์แนว Fantasy, Comedy, Romance เล่าเรื่องของกิล (รับบทโดย Owen Wilson) ได้เดินทางมาปารีส มหานครที่เขาหลงรัก เพื่อมาหาแรงบรรดาลใจในการทำงานเขียนของเขา และถือเป็นการพาคู่หมั้นของเขาคือ อิเนซ (รับบทโดย Rachel McAdams) และพ่อแม่ของอิเนซมาเที่ยวไปด้วยในตัว ซึ่งการมาฝรั่งเศสครั้งนี้ทำให้เขารู้สึกว่าเขาและอิเนซช่างแตกต่างกันทั้งแนวทางการใช้ชวิต ความคิด และทัศนคติ ในขณะที่อิเนซเพลิดเพลินกับการเที่ยวสถานที่หรูหราและโด่งดังในฝรั่งเศส กิลได้พบว่าช่วงเวลาเที่ยงคืนเขาหลงเข้าไปในอดีตยุค 1920 เขาได้พบกับนักดนตรีชื่อดังอย่าง โคล พอทเตอร์ นักเขียนชื่อดัง F. Scott Fitzgerald ซึ่งพาเขาให้ไปเจอนักเขียนในดวงใจอย่าง Ernest Hemingway และเขายังได้เจอศิลปินในยุคนั้นอีกมากมาย กิลได้รู้จักกับอะเดรียน่า (รับบทโดย Marion Cotillard) สาวสวยที่หลงใหลในศิลปะ กิลรู้สึกเหมือนได้คุยกับคนที่พูดภาษาเดียวกันและได้ตกหลุมรักสาวสวยคนนี้ ซึ่งเวลาเที่ยงคืนของทุกคืนเขาจะหลุดเข้าไปในอดีตดังกล่าว เมื่อเขาได้มาอยู่ในยุคที่ตัวเองหลงใหลและปลาบปลื้ม เป็นยุคที่งานเขียนเฟื่องฟู เต็มไปด้วยนักเขียนในตำนาน แถมมีสาวสวยที่เขาตกหลุมรัก จึงทำให้กิลอยากจะติดอยู่ในยุค 1920s ตลอดไป จุดที่ทำให้กิลเปลี่ยนความคิด คือ เมื่อคืนหนึ่งเขาและอะเดรียน่า ได้หลุดไปในยุค 1890s และอะเดรียน่าก็หลงใหลได้ปลื้มกับความเฟื่องฟูยุคนี้มาก เธอรู้สึกเหมือนกิล คืออยากจะอยู่ในอดีตตลอดไป แต่เป็นยุค 1890s คนละเวลากับยุคสมัยที่กิลปลาบปลื้ม ทำให้กิลเริ่มตระหนักว่าความหลงใหลในอดีตมันคงเป็นวัฎจักรกันแบบนี้ เราอยู่ในยุคไหนคงหนีไม่พ้นที่จะนึกถึงและโหยหาช่วงเวลาที่ผ่านพ้นมา (ฟังแล้วคุ้น ๆ เหมือนเคยได้ยินกระแสชาว Gen X ในประเทศไทยโหยหาช่วงเวลายุค 90s ซึ่งมีการแชร์และแบ่งปันความประทับใจของยุคนั้นทั้งวิถีชีวิตของวัยรุ่น ขนมและของกินยอดฮิต รสนิยมทางดนตรี และศิลปินคนโปรด)

Midnight in Paris กล่อมคนดูให้มีความฟุ้งฝัน ในขณะเดียวก็ฉายภาพสวยคลาสสิกและโรแมนติกในซอกมุมต่าง ๆ ของนครปารีส ดึงดูดให้อยากไปชมด้วยตาตัวเองซักครั้ง แถมใช้คำพูดของตัวละครโน้มน้าวให้คนดูคล้อยตาม เช่น ตอนที่กิลบอกว่าการเดินกลางฝนพรำในเมืองปารีสเป็นอะไรที่โรแมนติกที่สุด เอาน่า…ดูหนังแล้วคงได้เดินทางไกลไปตามรอย Midnight in Paris ซักครั้งในชีวิต