Begin Again เพราะรักคือเพลงรัก

วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับภาพยนตร์แนวโรแมนติกปนดราม่าเล็ก ๆ จากผู้กำกับ จอห์น คาร์นีย์ ที่นำแสดงโดยนักแสดงคุณภาพอย่าง เคียรา ไนต์ลีย์มาร์ก ราฟฟาโล่เฮลี สไตน์เฟลด์ และนักร้องหนุ่มชื่อดังอย่าง อาดัม เลอวีน ที่เนื้อเรื่องพยายามพูดถึงการเริ่มต้นใหม่ หลังจากเจอเหตุการณ์ร้าย ๆ ในชีวิต พร้อมกับเป็นเจ้าของบทงานเพลง ลอสสตาร์ ที่เนื้อเพลงเล่าถึงการตามล่าความฝันและเส้นทางชีวิตแสนไพเราะ ที่ต้องลองฟังสักครั้งในชีวิต

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อหนุ่มใหญ่อย่าง แดน มัลลิแกน (มาร์ก รัฟฟาโล) ผู้บริหารค่ายเพลงในนครนิวยอร์ก ที่กำลังเจอกับปัญหาใหญ่ เมื่อไอเดียของเขานั้นล้าสมัย และไม่เป็นที่นิยม จึงทำให้เขาถูกไล่ออกจากบริษัทของตัวเอง ฉากนี้พยายามสื่อถึงคนที่ท้อแท้หมดหวัง และหมดกำลังใจในตัวเองถึงขีดสุด ซึ่งเป็นมุมมองที่ดีในการนำเสนอแนวทางแก้ไขให้กับคนที่กำลังประสบปัญหาเหล่านี้อยู่ โดยเนื้อเรื่องดำเนินในแบบที่ตัวละครสิ้นหวัง แต่ไม่ได้สิ้นคิด เขายังคงหวังว่าจะเจอไอเดียใหม่ๆเพื่อที่จะได้กลับไปยึดบริษัทของตัวเองคืน จนมาเจอกับ เกรต้า (เคียรา ไนต์ลีย์) นักร้องและนักแต่งเพลงสาวสวย ที่โดดเด่นและโดดเดี่ยว แดนจึงพยายามชักชวนให้เธอมาทำผลงานเพลงกับเขา เพราะเขาเชื่อว่าเพลงของเกรต้าจะต้องดังและเป็นที่นิยมอย่างแน่นอน

ในตอนแรกที่เจอกับผู้บริหารที่ไร้บริษัทอย่างแดนนั้น เกรต้าก็ไม่มั่นใจที่จะไปเสี่ยงกับเขา เพราะเธอมีแฟนหนุ่มเป็นศิลปินชื่อดังคอยดูแลอยู่แล้ว แต่เมื่อเธอได้รู้ความจริงว่า  เดฟ โกห์ล (อาดัม เลอวีน) แฟนของเธอนั้นหักหลังเธอด้วยการแอบไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้หญิงในช่วงที่เขาไปโปรโมทอัลบั้ม ทำให้เกรต้าตัดสินใจหันหลังให้กับคอนโดหรูและมาอาศัยอยู่กับเพื่อนนักดนตรีของเธอแทน เนื้อเรื่องเล่าถึงความเจ็บปวดจากการถูกหักหลังได้อย่างครบรส และสื่อถึงเรื่องราวที่เจ็บปวดของเกรต้ากับแดนได้อย่างชัดเจน จะสังเกตได้ว่าทั้งตนนั้นมีสิ่งหนึ่งที่คล้ายกันนั่นคือ การโดนคนที่ไว้ใจหักหลัง ซึ่งตัวละครก็ทำออกมาได้ดีทีเดียว ส่วนอีกหนึ่งฉากที่เป็นฉากประทับใจและน่าจดจำมาก ๆ นั่นก็คือ ตอนที่เดฟแฟนเก่าของเกรต้า นำเพลงที่เธอแต่งให้เขาตอนที่อยู่ด้วยกันสองคนขึ้นแสดงบนเวลา เป็นฉากที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด และความรู้สึกคาดหวังที่จะได้รับการอภัยของฝ่ายชาย บวกกับความเสียใจเมื่อต้องคิดถึงเรื่องราวเก่า ๆ และการตัดสินใจที่จะไม่กลับไปอยู่ในจุดเดิมอีกครั้งของฝ่ายหญิง เรียกได้ว่าเป็นฉากที่อึดอัดและอยากร้องไห้ตามไปด้วยจริง ๆ

เป็นภาพยนตร์คุณภาพอีกเรื่องที่นอกจากเนื้อเรื่องจะให้ข้อคิดในการต่อสู้กับปัญหาในชีวิตอย่างมากมายแล้ว ในส่วนบทเพลงแนวบัลลาดที่ใช้ประกอบในเรื่องนั้นก็ยังเพราะติดหูสุดๆ เลยด้วย ลองเปิดใจดูกันสักครั้งนะ