Bad Genius ฉลาดเกมส์โกง เรื่องราวความเจ้าเล่ห์ของวัยรุ่นไทย

หลายคน ๆ คงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “ดูหนังไทยไปก็เสียเวลา แล้วก็ต้องเสียตังค์แพง ๆ ไปดูในโรงภาพยนตร์หรอก เดี๋ยวรอดูตามเว็บเอาดีกว่า” กันบ้างอยู่แล้วใช่ไหมล่ะ วันนี้เราจึงมาแนะนำภาพยนตร์ไทย ที่จะมาลบคำสบประมาทเหล่านี้ออกไปอย่างสิ้นเชิงนั่นคือ Bad Genius ฉลาดเกมส์โกง เป็นหนังแนวดราม่าเกี่ยวกับปัญหาชีวิตวัยรุ่น ที่เข้าฉายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 การันตีคุณภาพโดยการได้รับเลือกให้เป็นภาพยนตร์ฉายเปิดเทศกาลภาพยนตร์เอเชียนิวยอร์ก ครั้งที่ 16 ณ สหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรก ที่ถูกนำไปรีมาสเตอร์เพื่อเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ไอแมกซ์อีกด้วย

เนื้อเรื่องเล่าถึงเรื่องราวของเด็กม.ปลาย ที่มีชีวิตแตกต่างกัน เริ่มต้นที่ ลิน (ชุติมณฑน์ จึงเจริญสุขยิ่ง) นักเรียนสายเรียนดี เป็นที่รักของคุณครู ผู้ครองเกรดเฉลี่ย 4.00 ทุกปีการศึกษา แต่ฐานะทางบ้านของเธอนั้นไม่ดีสักเท่าไหร่ พ่อของลิน ทำงานเป็นคุณครูในต่างจังหวัด จึงเป็นเหตุทำให้เธอมักจะโดนดูถูกและเป็นแผลในใจตลอดเวลา ซึ่งเพื่อนสนิทของลินคือ  เกรซ (อิษยา ฮอสุวรรณ) เด็กสาวที่รักในการทำกิจกรรมเป็นอย่างมาก แต่ผลการเรียนของเธอกลับย่ำแย่จนไม่เป็นที่น่าพอใจ เธอจึงต้องพยายามที่จะดีดตัวเองให้สูงขึ้น เนื่องจากเธอกำลังคบหากับ พัฒน์ (ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ) เด็กหนุ่มที่เติบโตมาในครอบครัวที่เพียบพร้อมไปด้วยเงินทองและบริวาร เรียกว่ารวยล้นฟ้าเลยก็ว่าได้ จึงทำให้เขามีแนวคิดฝังหัวที่ว่าเงินสามารถซื้อทุกสิ่งทุกอย่างได้ ด้วยความที่เป็นลูกชายคนเดียว พ่อแม่ของพัฒน์จึงคาดหวังให้เขาได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำ เรื่องราวของธุรกิจการศึกษาจึงเกิดขึ้น เมื่อคนหนึ่งมีสมองที่ฉลาดเป็นกรด ส่วนอีกคนมีเงินที่พร้อมจะจ่ายให้กับทุกสิ่งที่อยากได้

เมื่อเด็กทั้งสามตกลงที่จะทำงานใหญ่ด้วยกัน  นั่นคือการสอบ STIC ที่ยากและเป็นมาตรฐานระดับสากล พวกเขาจึงต้องวางแผนกันอย่างรอบคอบและรัดกุม เพื่อให้ได้ในสิ่งที่พวกเขาไม่ได้คาดหวัง แต่เป็นสิ่งที่พวกเขาเหล่านี้ถูกคาดหวัง ซึ่งเป็นความแปลกใหม่และความกล้าคิดกล้าทำของผู้กำกับ ที่สร้างเนื้อเรื่องเสียดสีสังคม และการศึกษาของไทยได้อย่างเจ็บแสบมากทีเดียว ตัวละครแต่ละตัวมีปมปัญหาที่เจ็บปวดในชีวิตของตัวเอง ซึ่งนักแสดงทุกคนสามารถสื่อออกมาได้อย่างชัดเจน สมกับที่ได้รับเลือกไปเป็นภาพยนตร์ฉายเปิดเทศกาลภาพยนตร์เอเชียนิวยอร์กจริง ๆ

ไม่ใช่แค่ตัวละครในเรื่องเท่านั้นที่ทำเรื่องไม่ดี เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่คนอื่นคาดหวัง เพราะหนังเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงสิ่งที่เราทุกคนต้องเคยพบเจอมาด้วยตัวเอง หรือพบเจอโดยคนใกล้ตัว เป็นความอึดอัดกดดันที่หาทางออกได้ยาก สำหรับใครที่ชอบหนังแนวดราม่า และโชว์ทักษะความเก่งกาจของตัวละครได้อย่างดีนั้น รับรองว่าถ้าดูเรื่องนี้แล้ว จะต้องได้หนังในดวงใจ เพิ่มไว้ในลิทรายชื่อหนังโปรดอีกเรื่องอย่างแน่นอน

 

ลุ้นรักฉบับเพื่อนสนิท ฟินตลอดเรื่อง “Love Rosie”

ใครชอบความรักกุ๊กกิ๊ก จิกหมอนฟิน ยิ้มอิ่มเอมตลอดเรื่อง ต้องไม่พลาดภาพยนตร์สุดโรแมนติก ที่สร้างจาก      นวนิยายรักขายดีระดับโลก “Where Rainbows End” ที่ได้นักแสดงวัยรุ่นขวัญใจมหาชน ลิลลี่ คอลลินส์ จาก Mortal Instruments และ แซม คลาฟลิน The Hunger Games : Catching Fire มารับบทเพื่อนสนิทแอบรัก กิ๊กกัก! ใน “Love Rosie “(2014)

“Love Rosie” เป็นเรื่องราวของความสัมพันธ์ของเพื่อนซี้ มองตาก็รู้ใจ โรซี่ ดันน์ (ลิลลี่ คอลลินส์) กับ อเล็กซ์ สจ็วต (แซม คลาฟลิน) เพื่อนสนิทคิดไม่ค่อยซื่อ พวกเขาเติบโตใช้ชีวิตด้วยกันมาตั้งแต่เด็กจนโต เตรียมวางแผนจะไปเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันที่อเมริกา แต่แล้วแผนที่วางไว้ก็ส่งสลายหายไป ด้วยคืนปาร์ตี้สุดเหวี่ยงคืนหนึ่ง ทำให้โรซี่ พลาดท่าเสียทีจนตั้งครรภ์เธอเลยเลือกที่จะปล่อยให้อเล็กซ์ไปมีชีวิตใหม่ที่อเมริกาโดยที่ไม่มีเธอ วันเวลาผ่านไปทั้งสองได้โคจรกลับมาพบกันอีกครั้ง อเล็กซ์ เรียนแพทย์และได้แฟนสาวสวยใช้ชีวิตในเมือง ส่วนโรซี่ ทำงานในโรงแรมเลี้ยงลูกคนเดียวอยู่บ้านเกิด ทั้งสองต้องพบกับบทเรียนใหม่ หาคำตอบให้กับตัวเอง ว่าความสัมพันธ์นี้จะจบลงด้วยคำว่าเพื่อนหรือไม่ ??

“โรซี่ ดันน์”คุณแม่วัยทีนที่ทิ้งความฝันเพื่อลูกรัก

โรซี่ ดันน์ ได้ดาราสาว ลิลลี่ คอลลินส์ มาสวมบทบาทสาววัยรุ่นคึกคะนอง ไม่รู้ใจตัวเองที่พลาดท่าเสียทีจนกลายเป็นคุณแม่มือใหม่ ถึงแม้ว่าจะอยากตามอเล็กซ์ไปเรียนและใช้ชีวิตสวยหรูตามที่ฝัน แต่เมื่อต้องเลือก ในที่สุดเธอก็เลือกที่จะเลี้ยงลูกเอง ไม่ยกให้กับบ้านเด็กสงเคราะห์ และใช้ชีวิตเฝ้าดูการเติบโตของเจ้าตัวน้อยที่เมืองบ้านเกิดด้วยความรัก โรซี่ เป็นต้นแบบคุณแม่วัยทีนที่หายากในยุคนี้ และเป็นตัวอย่างของวัยรุ่นหลาย ๆ คนที่มีความฝันแต่ผิดแพลน เพราะการตั้งครรภ์

สำหรับเนื้อเรื่องของ Love Rosie ไม่ได้ผิดแปลกไปจากหนังสือเท่าไรนัก ดูง่ายไม่ซับซ้อน เล่าเรื่องแบบง่าย ๆ ดูแล้วครบทุกรสชาติ อบอุ่นหัวใจ น่ารักโรแมนติก หรือจะเอาซีนอารมณ์ก็ทำได้ไม่เลว โรซี่กับอเล็กซ์ รับส่งบทกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ สับสนไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเอง ดูแล้วแอบรักตามเลยทีเดียว

ความเก๋อีกอย่างคือการแฝงการเติบโต (Coming of Age) ของวัยรุ่น และการใช้ชีวิตผ่านคู่พระนางได้อย่างลงตัว เห็นภาพมาก ๆ แต่ที่แอบอึดอัดใจนิดหน่อย คือความลุ้นว่าเมื่อไหร่คู่พระนางจะลงเอยกันสักที คลาดกันไปมา ลุ้นเหนื่อยมาก ๆ จนคิดว่าอาจจะไม่ลงเอยกันซะแล้ว ส่วนเพลงประกอบจากภาพยนตร์โดดเด่นหลายเพลง โดยเฉพาะเพลง Fuck You (Lily Allen) น่ารักทะเล้นมาก ๆ  ถ้าใครแอบรักเพื่อนสนิท ก็รีบตามหาคำตอบให้หัวใจตัวเองกันนะ
คะแนน : B