Edge of Tomorrow รีเซ็ตวันใหม่โค่นกองทัพเอเลี่ยน

หนังแนวแอ็คชั่น ไซไฟ จากสหรัฐอเมริกาเข้าฉายในปี 2014 ที่ดัดแปลงมาจากไลท์โนเวลจากประเทศญี่ปุ่นที่ชื่อว่า All You Need Is Kill ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ได้เล่าถึงโลกอนาคต ที่มนุษย์กำลังทำสงครามกับ มิมิค เอเลี่ยนที่บุกรุกเข้ามาเพื่อจะยึดครองโลก สงครามได้ดำเนินไปอย่างยืดเยื้อและสนามรบกระจายไปทั่วโลก ฝ่ายมนุษย์ระดมกำลังและเทคโนโลยีทั้งหมดในสงครามครั้งนี้ ตัวเอกของเรื่องคือ ผู้พันวิลเลี่ยม เคจ ที่มีความสามารถรีเซ็ตวันใหม่ โดยการฟื้นคืนชีพในเวลาเดิม 1 วันก่อนเข้าสู่สนามรบ ไม่ว่าจะตายด้วยรูปแบบใดก็ตาม ด้วยความสามารถนี้ เคจ จึงกลายเป็นคนที่อาจจะโค่นกองทัพมิมิคนี้ลงได้

เรื่องเริ่มต้นโดยเคจยังเป็นคนธรรมดา เขาถูกส่งตัวไปลุยแนวหน้าในสนามรบโดยมีเวลาเตรียมตัวเพียง 1 วัน ปัญหาคือเคจไม่เคยเตรียมตัวออกรบเลยแม้แต่น้อยเพราะเขามีหน้าที่เพียงออกข่าวให้สัมภาษณ์เพื่อสื่อสารกับประชาชนเท่านั้น รู้ตัวอีกทีคือเคจก็อยู่ในสนามรบที่เพื่อนทหารของเขากำลังถูกสังหารหมู่โดยมิมิค ที่เหมือนจะรู้แผนการรบทั้งหมดของฝ่ายมนุษย์ วินาทีที่เขากำลังจะตายเขาได้สังหารมิมิค ตัวอัลฟ่าซึ่งแตกต่างจากมิมิคตัวอื่น เลือดสีฟ้าของมิมิคถูกตัวของเคจ แล้วเขาก็ได้ความสามารถฟื้นคืนชีพตั้งแต่นั้นมา

เคจฟื้นแล้วตาย ตายแล้วฟื้นรอบแล้วรอบเล่า โดยพยายามแก้ไขสถานการณ์รบช่วยเพื่อนทหารให้ได้มากที่สุด จนในที่สุดเขาเจอกับริต้า ทหารหญิงขั้นเทพที่สังหารมิมิคได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์โดยยังมีชีวิตอยู่ ดูเหมือนริต้าจะเป็นเพียงคนเดียวที่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเคจ เพราะเธอเคยมีความสามารถในการฟื้นคืนชีพเช่นเดียวกัน ริต้าและเพื่อนนักวิทยาศาสตร์ได้ช่วยกันวางแผนกับเคจในการจัดการกับมิมิค เคจถูกฝึกอย่างหนักเพื่อเพิ่มศักยภาพในการรบ การฟื้นคืนชีพพร้อมความจำก่อนตายทำให้เขาเก่งขึ้นตามจำนวนครั้งที่ตาย

ระยะเวลา 1 วันก่อนเข้าสนามรบจนถึงเวลาที่ตายถูกวนลูปซ้ำไปมา แม้ว่าเคจเป็นคนเดียวที่เราอาจจะเรียกว่ารอดจากสงครามก็ได้เพราะความจำของเคจยังคงอยู่ แต่ไม่ว่าเขาจะตายกี่รอบหรือพยายามแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นอย่างไรผลลัพธ์ก็ยังคงเหมือนเดิม เขาจะตายในวันรุ่งขึ้นอยู่ดี เขาต้องการทางออกใหม่ ๆ โดยทางออกทางเดียวในการชนะสงครามและเป็นทางเดียวที่เคจจะหลุดออกจากการวนลูปฟื้นคืนชีพคือต้องกำจัดมิมิคตัวโอเมก้า ที่เป็นเหมือนหัวหน้าใหญ่ของมิมิคให้ได้

ด้วยเนื้อเรื่องที่แปลกเหนือจินตนาการในการรีเซ็ตวันใหม่หรือการฟื้นคืนชีพ ฉากแอ็คชั่นสุดมัน และวิธีความฉลาดในการเล่าเรื่องของผู้สร้างหนังที่ทำให้เรื่องราวซับซ้อนเข้าใจได้ง่าย ไม่น่าเบื่อ ทำให้ Edge of Tomorrow เป็นหนังเพียงไม่กี่เรื่องที่สร้างขึ้นจากต้นฉบับฝั่งเอเชียและได้รับคำวิจารณ์ในทางบวก มาช่วยกันลุ้นไปกับเคจและริต้าว่าจะชนะสงครามจากเหล่ามิมิคในครั้งนี้ได้อย่างไร รับรองได้ว่าเรื่องนี้จะถูกใจคอหนังแอ็คชั่น ไซไฟแน่นอน

A Quiet Place ดินแดนไร้เสียง

วันนี้เรามาเอาใจคนรักภาพยนตร์ที่เป็นสาวกแนวระทึกขวัญ หลอนประสาท และกดดันกันสุดขีด กับภาพยนตร์ระทึกขวัญแนวใหม่ ที่ไม่ต้องใช้คนแสดงเป็นสิบก็ดำเนินเรื่องได้แบบถึงใจสุด ๆ มีตัวละครที่ดำเนินเรื่องคือ คู่สามีภรรยาและลูก ๆ ของพวกเขา ซึ่งรับบทโดยเอมิลี่ บลันต์ ภรรยาในชีวิตจริงของจอห์น คราซินสกี รับหน้าที่เป็นทั้งพ่อในเรื่องและเป็นผู้กำกับอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นหนังแนวระทึกขวัญที่ดีที่สุดของปีนี้เลยทีเดียว เพราะเนื้อเรื่องเล่นกับความเงียบ และความสัมพันธ์ในครอบครัว เป็นปมปัญหาที่ขนาดคุยกันด้วยเสียงยังก็แก้ยาก แล้วเรื่องนี้ต้องคุยกันด้วนภาษามือ กดดันคนดูจนแทบไม่กล้าหายใจกันเลยทีเดียว

เริ่มต้นเรื่องราวด้วยความเงียบ พร้อมกับบรรยากาศของเมืองที่เหมือนจะร้างจนไร้ผู้คน แต่ก็มีครอบครัวหนึ่งที่ยังอยู่รอด นั่นคือ ครอบครัวแอบบอตต์ พวกเขากำลังจะเดินทางด้วยเท้า เพื่อไปสร้างหลักแหล่งอยู่นอกเมือง โดยการโรยทรายไปตามทางเพื่อไม้ให้เกิดเสียงเวลาเดิน ในแต่ละวันพวกเขาต้องดำเนินชีวิตกันแบบไร้เสียง เพราะถ้ามีใครทำเสียงดังขึ้นมาละก็ เจ้าสิ่งลับมันจะบุกมาคร่าชีวิตของพวกเขาทันที เนื้อเรื่องดำเนินไปด้วยความเงียบ สำหรับคนที่ไปดูในโรงภาพยนตร์คงจะรับรู้ความรู้สึกที่ว่า หนังสามารถคุมคนดูได้อย่างอยู่หมัด จากที่มีเสียงคนคุยกันคึกคัก เสียงขบเคี้ยวขนมในตอนแรก พอเมื่อหนังเริ่มฉายได้ไม่ถึง 5 นาที ทุกอย่างก็เงียบสนิท เหมือนไม่มีคนดูอยู่ในโรง เมื่อมีฉากที่เกิดเสียงดังก็จะได้ยินเสียงสูดลมหายใจของคนในโรงอย่างแผ่วเบา เรียกได้ว่าเป็นหนังเงียบที่ทำได้ดีสมกับชื่อเรื่องจริง ๆ

ปมของหนังเล่นกับความรู้สึกของคนดูอย่างหนักหน่วง ความกดดันที่ไม่สามรถออกเสียงได้ ความเศร้าโศกจากการสูญเสียลูกชายตัวน้อย ๆ ไป และความเจ็บปวดของคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่ไม่สามารถปลอบโยน หรือแม้แต่ร้องไห้ให้ลูกได้ เป็นความเจ็บปวดที่ดาราชื่อดังอย่าง เอมิลี่ บลันต์ ต้องใช้ทักษะในการแสดงอารมณ์ทางสีหน้าที่ยากมาก ๆ แต่เธอก็สามารถทำออกมาได้เข้าถึงคนดูอย่างลึกซึ้งจริง ๆ เนื้อเรื่องดำเนินต่อไปเกือบสองร้อยวัน แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็อุบัติขึ้น เมื่อเธอเกิดตั้งครรภ์ ไม่มีความเป็นไปได้เลยที่จะคลอดทารกออกมาโดยไม่ใช้เสียง พวกเขาจึงพยายามสร้างห้องเก็บเสียงขึ้นมา ในส่วนนี้หนังสื่อถึงบทบาทของพ่อแม่ได้ชัดเจน การพยายามหาหนทางที่จะปกป้องลูกๆ และช่วยลูกสาวคนโตที่หูหนวก ซึ่งเป็นอีกตัวละครที่ต้องขอชื่นชมว่าแสดงได้ดีจริง ๆ เพราะมิลลิเซ็นต์ ซิมมอนด์ ในบทเรแกน เธอคือเด็กสาวที่หูหนวกจริงๆ ซึ่งถือว่านักแสดงทุกคนทำงานกันอย่างหนักเลยทีเดียว

สำหรับใครที่ยังลังเลว่าควรดูดีหรือไม่ หรือไม่เคยดูหนังแนวระทึกขวัญกดดันความรู้สึกแบบนี้มาก่อน ขอแนะนำให้ลองเปิดใจให้กับเรื่องนี้ดูนะ รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน